
21 ก.ย.2568-พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ปิดด่าน กับ เปิดด่าน ใครได้ใครเสียบ้าง!” เนื้อหาระบุ
การปิดด่านนั้นทำให้พ่อค้ารายใหญ่ๆเดือดร้อนก็จริง แต่การปิดด่านแบบสนิทๆเลย จะทำให้การเจรจาเพื่อต่อรองทวงคืนพื้นที่ประเทศไทยทำได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้นไม่ต้องรบกันอีก เพราะ “เราขอแค่พื้นที่ของเราคืนกลับมาเท่านั้นเอง” นอกจากนั้น การปิดด่านอย่างจริงจัง ยังทำให้สามารถกลับมาเปิดด่านได้อย่างรวดเร็วกว่าการแอบ ปิดๆ เปิดๆ
พ่อค้าหลายคนชอบอ้างว่า การปิดด่านจะทำให้ประเทศไทย ขาดรายได้จากการค้าชายแดน ที่เคยได้ประมาณ 3.5-4 หมื่นล้านบาทไป แต่ถ้าลองกลับมาคิดดูดีๆ จะพบว่า การเปิดด่านนั้น จริงๆแล้ว ไม่ได้กำไรมากมายตามตัวเลขที่ระบุขนาดนั้นหรอกครับ เพราะมันแค่เป็นตัวเลขขายของ แต่ต้นทุนจริงๆไม่มีใครคำนวนออกมาให้ประชาชนรู้บ้าง เช่น
1.การสูญเสียพื้นที่ทำกินของราษฎรตามแนวชายแดน ไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นจุดที่พวกเราคนไทยทนมาได้อย่างไรกันตั้ง 20 กว่าปี แค่กลัวว่าปิดด่านแล้วจะขายของไม่ได้ หรือกลัวข้าราชการท้องถิ่นจะไม่มีรายได้พิเศษ !
2.ไทยเราเสียรายได้จากการเก็บภาษีที่ควรจะได้ จากสินค้าเถื่อนที่หลุดเข้ามาในประเทศ จำนวนมหาศาล จากหมู่บ้านเขมรที่รุกเข้ามาอยู่ในดินแดนเรา จนทำให้สินค้า SME ของเราขายไม่ค่อยได้
3.เรื่องราวตามแนวชายแดน พี่ไทยเสียงบประมาณ ค่าสาธารณสุข และ การศึกษาให้กับชาวกัมพูชาไป ปีละหลายพันล้าน จนจะเป็นเรื่องปกติที่จะต้องตั้งงบฯแผ่นดินไว้เผื่อ(เขมร)ไปแล้ว..ทำไม?
4.นอกจากนี้ ยังทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียง ที่กลายเป็นแหล่งสนับสนุนการค้ามนุษย์ และธุรกิจออนไลท์ต้มคนไปทั้งโลก
5.ทำให้ประเทศไทยมีส่วนในการเป็นประเทศที่สนับสนุนการฟอกเงิน และในขณะเดียวกัน บ่อนการพนันในกัมพูชาเหล่านี้ ก็เป็นแหล่งฟอกเงินให้ข้าราชการไทยที่รับสินบน ได้อย่างสะดวกสบายด้วย ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนไทยกล้าทำชั่วง่ายขึ้นเช่นกัน
6.……. ยังมีอีกหลายเรื่องเขียนต่อเอาเองตามสบายนะครับ ..
